Knowledge


คลังความรู้

ความยั่งยืนคืออะไร? ทำไมหลายธุรกิจถึงให้ความสำคัญ

            “ความยั่งยืน หรือ Sustainability ” วลีที่ปัจจุบันใครๆและหลายธุรกิจต่างพูดถึง ทั้งที่ดูเป็นเรื่องไกลตัวและไม่ได้มีประโยชน์เด่นชัดเป็นรูปธรรมทันที  แต่ภาคธุรกิจก็เริ่มให้ความสำคัญปรับตัวใส่ใจความยั่งยืนกันมากไม่ใช่แค่ในประเทศไทยแต่ทุกประเทศทั่วโลกต่างให้ความสำคัญเช่นกัน ความยั่งยืนคืออะไร? สำคัญขนาดไหน? ไปหาคำตอบกันครับ 

ความยั่งยืน หรือ Sustainability  

            ความยั่งยืน (Sustainability) นั้นมีหลากหลายความหมายแต่แก่นของความหมายทั้งหมดนั้นคือ การพัฒนาและการรักษาสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบันให้สามารถดำรงสภาพอยู่ได้ต่อไปในอนาคต โดยไม่ให้เกิดผลกระทบคนรุ่นหลังภายภาคหน้า และสิ่งที่ได้รับผลกระทบในปัจจุบันที่สัมผัสกันได้มากที่สุดคือสิ่งแวดล้อม จะสังเกตว่าสมัยนี้สิ่งแวดล้อมมีความแปรปรวนสูง ผิดฤดูกาลมากขึ้นอีกทั้งน้ำทะเลสูงขึ้นทุกๆปี ผลพวงทั้งหมดนี้มาจากผลกระทบจากมนุษย์ โดยพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันการใช้พลังงานไฟฟ้า ธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ส่งผลให้ความต้องการใช้พลังงานของโลกสูงมากขึ้นจึงปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) มากขึ้น เพื่อให้สามารถลดผลกระทบที่เกิดขึ้น จึงได้มีการจัดประชุม COP (Conference of the Parties) เป็นการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งเป็นครั้งที่ 26 แล้ว เพื่อหารือประชุมตั้งเป้าหมายใหญ่อย่าง Net Zero ที่ตั้งเป้าไว้ในปี 2065 เพื่อช่วยกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่ให้พุ่งสูงเกินไป แม้จะดูเป็นเป้าหมายระยะยาว แต่หากเอาเข้าจริงๆถือเป็นเป้าหมายที่ท้าทายอย่างมาก จากการประชุม COP26 ที่สกอตแลนด์ ประเทศไทยได้ประกาศระบุว่า จะเป็นประเทศมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ในปี 2065 ขณะเดียวกันจะมุ่งสู่การเป็นประเทศที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)ในปี 2050 ตามแผนการดำเนินแผนพลังงานแห่งชาติ

Net Zero มีทิศทางอย่างไร? 

            จากการประชุม COP26 ที่ผ่านมาแนวทางแต่ละประเทศการกำหนดเป้าหมายสิ่งแวดล้อมโดยชัดเจนขับเคลื่อนตามนโยบายดังกล่าว สำหรับประเทศไทยก็ได้ประกาศผลักดันเป้าหมาย Net Zero โดยมีภาคธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศหลายบริษัท ได้ปรับตัวร่วมทำเป้าหมายลดคาร์บอนกันมากจากแรงกดดันจากนักลงทุน ที่เน้นการลงทุนกับบริษัทที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำเพื่อสังคมและมีบรรษัทภิบาลอย่าง ESG (Environment, Social, Governance) ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป  

เพิ่มพื้นที่ป่าไม้ สัดส่วนสีเขียว 

            โดยได้กำหนดให้เพิ่มพื้นที่ป่าไม้ 40% แบ่งได้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ 25% และพื้นที่ป่าใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจอีก 15% ซึ่งนอกจากพื้นที่ป่าไม้แล้ว ในเมืองยังต้องปรับเพื่อตอบรับกับสิ่งแวดล้อม เช่น การออกแบบสถาปัตยกรรมและอาคารต่างๆ ให้เอื้อต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอย่าง Green Building อาคารสีเขียวโดยคำนึงการใช้พลังงาน ทรัพยากรและสภาพแวดล้อมให้มีประสิทธิภาพสูงสุดให้คนในอาคารมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดด้วยประสบการณ์กว่า 28 ปี INNOได้ให้คำปรึกษาด้านการใช้พลังงานในอาคาร ปรับปรุงสภาพแวดล้อมและบริหารทรัพยากรในอาคารให้สามารถรองรับมาตรฐานอาคารอย่าง LEED (Leadership in Energy and Environmental Design)และ TREE (Thai’s Rating of Energy and Environmental Sustainability) ตอบโจทย์การออกแบบสถาปัตยกรรมและอาคารต่างๆ การันตีได้จากการคว้ามาตรฐาน ISO 41001 Facility Management (FM) ตอบโจทย์ทุก Solution สิ่งแวดล้อมและพลังงานในอาคารสนับสนุนอาคารเขียวครบวงจร 

ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงลง 

            สหภาพยุโรป EU (European Union) มีการออก CBAM(Carbon Border Adjustment Mechanism) เป็นมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน EU โดยกำหนดราคาสินค้านำเข้าบางประเภทเพื่อป้องกันสินค้าที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง เข้ามาในกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป กลุ่มอุตสาหกรรมในประเทศจึงมีการตื่นตัวตอบรับเนื่องจากหากปล่อยเรือนกระจกสูงตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตจะทำให้ต้องเสียภาษีคาร์บอน(Carbon Tax)มากขึ้น   

            INNO มีกลยุทธ์ธุรกิจบนหลักของ ESG และ BCG Model ส่งเสริมลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง มีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่าง DI (Digital Innovation) เข้ามาเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และสามารถใช้ติดตามการใช้พลังงานในอาคาร ให้สามารถรับรู้ปัญหา การแจ้งเตือน แก้ไขพลังงานที่เป็นส่วนเกินในอาคารบน Platform บน Cloud ที่มีความปลอดภัยระดับสูงสุด 

ผลักดันการใช้พลังงานสะอาด 


            ปัจจุบันภาครัฐมีการสนับสนุนพลังงานสะอาดอย่างไฟฟ้ากันมากขึ้นเพื่อลดการปล่อยเชื้อเพลิงในรูปแบบเดิม โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าอย่างรถไฟฟ้า EV ตามนโยบาย 30@30 ที่ส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า EV ของประเทศ ตั้งเป้าผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle)และทำให้ได้อย่างน้อย 30%ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดภายในปี 2030 ทำให้อุตสาหกรรมภาคธุรกิจในไทยต้องปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากการส่งเสริมพลังงานสะอาดด้านยานยนต์แล้ว ยังส่งเสริมภาคธุรกิจและครัวเรือนอย่างพลังงานแสงอาทิตย์จากโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) ให้ใช้พลังงานหมุนเวียนที่มีอยู่ไม่จำกัดลดการใช้ไฟฟ้าในรูปแบบเดิม INNO SOLAR เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์และมีการบริการที่ส่งเสริมผลักดันให้แก่ผู้ประกอบหรือภาคครัวเรือนหันมาใช้พลังงานสะอาดอย่างโซลาร์เซลล์ซึ่งจะช่วยทั้งลดต้นทุนค่าไฟฟ้าและยังเป็นการใช้พลังงานได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย 

            ทั่วโลกได้ตั้งเป้าหมายสำคัญ ต่างมีกลยุทธ์ดำเนินเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ แต่สิ่งสำคัญคือทุกภาคส่วนหันมาให้ความสำคัญลงมือทำทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงกลุ่มประชาชนครัวเรือนจะสามารถทำให้เป้าหมายโลกสำเร็จขึ้นได้อย่างยั่งยืน 

            บริษัท อินโนเวชั่น เทคโนโลยี จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านที่ปรึกษางานระบบวิศวกรรม และบริหารงานบำรุงรักษาซ่อมแซมงานระบบวิศวกรรม งานบริหารการจัดการพลังงานภายในอาคาร รวมถึงบริการอบรมด้าน ESG สนใจติดต่อเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 941 4080 หรือคลิกที่นี่เพื่อให้เราติดต่อกลับ

อ้างอิง : : https://www.setsocialimpact.com/Article/Detail/77643