ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality): กุญแจสู่ความยั่งยืนของธุรกิจ
ในยุคที่ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อนทวีความรุนแรงมากขึ้น “ความเป็นกลางทางคาร์บอน
(Carbon Neutrality)” จึงกลายเป็นเป้าหมายสำคัญ ที่ทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจทั่วโลก ให้ความสำคัญ ไม่เพียงเพื่อรับมือ
กับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นกุญแจสู่ความยั่งยืน ในระยะยาวขององค์กร
ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) คืออะไร?
ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) คือ การทำให้ปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) เข้าสู่ชั้นบรรยากาศ เท่ากับปริมาณที่ถูกดูดซับหรือชดเชยกลับคืนมาได้ เพื่อไม่ให้ก๊าซเรือนกระจกสะสมมากเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน
และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ทำไมโลกธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับ Carbon Neutrality
การมุ่งสู่ Carbon Neutrality ไม่ได้เป็นเพียงการตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการยกระดับองค์กร
- การเสริมสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือ
- การสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขัน
- การดึงดูดนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน (ESG)
- การรองรับกฎหมายและนโยบายสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น
- การเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ในตลาดคาร์บอนเครดิต ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก

3 กุญแจ บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน : ลด – ดูด – ชดเชย
1.ลด (Reduce CO₂)
คือ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากต้นทาง ด้วยการลดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และหันมาใช้พลังงานหมุนเวียนให้มากขึ้น
2.ดูด (Absorb CO₂)
คือ การดูดกลับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เช่น เมื่อองค์กรมีกิจกรรมที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนออกมาเท่าไร ต้องพยายามดูดกลับในปริมาณเท่านั้น ไม่ว่าจะผ่านวิธีทางธรรมชาติ โดยการปลูกป่า หรือผ่านเทคโนโลยี ระบบดักจับและกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture and Storage: CCS) เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของก๊าซเรือนกระจก ที่ทำให้โลกร้อนขึ้น
3.ชดเชย (CO₂ Offset)
คือ การชดเชยการปล่อยคาร์บอนที่เหลือ ด้วยกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การซื้อขายคาร์บอนเครดิต หากองค์กรปล่อยก๊าซเรือนกระจก 100 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO₂eq) และดูดซับกลับมาได้ 80 tCO₂eq ที่เหลืออีก 20 tCO₂eq องค์กรจะต้องซื้อคาร์บอนเครดิต
จากบริษัทอื่น ๆ มาชดเชยแทนที่
สรุป
การก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) เป็นทั้งความท้าทายและโอกาสของโลกธุรกิจ การดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังวางรากฐานแห่งความยั่งยืน เสริมความน่าเชื่อถือ และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว