News


ข่าวสาร

อนาคตธุรกิจในยุค ESG : แนวทางการวางกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืน

      ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธุรกิจต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลด้วย

      วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับแนวคิด ESG ที่ไม่ใช่เพียงแค่เทรนด์ชั่วคราว แต่เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมทั้งแนวทางปฏิบัติง่าย ๆ ที่คุณสามารถเริ่มต้นปรับใช้ในองค์กรได้ทันที

ESG คืออะไรและทำไมถึงสำคัญ?

ESG (Environmental, Social, and Governance) คือแนวทางด้านความยั่งยืนที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
โดยคำนึงถึง

ในยุคที่เศรษฐกิจโลกผันผวนและวิกฤตสภาพภูมิอากาศทวีความรุนแรง แนวทาง ESG ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราวอีกต่อไป แต่เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการอยู่รอดและเติบโตอย่างยั่งยืน

ประโยชน์ของการนำ ESG มาปรับใช้ในธุรกิจ

1. ลดความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและกฎหมาย :

การปฏิบัติตามมาตรฐาน ESG ช่วยให้ธุรกิจปฏิบัติตามกฎระเบียบสากลและลดความเสี่ยงด้านกฎหมายในเรื่องสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชน

2. เพิ่มโอกาสทางการเงินและการลงทุน :

นักลงทุนและสถาบันการเงินให้ความสนใจกับ ESG Rating มากขึ้น ธุรกิจที่มี ESG Model ที่ดีจึงเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการสนับสนุนทางการเงินได้ง่ายกว่า

3. สร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดี :

การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ดึงดูดลูกค้าและคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ

4. ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ :

การใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงลดต้นทุนการดำเนินงาน แต่ยังช่วยเสริมสร้างนวัตกรรมในการผลิตและบริการ

5. เสริมสร้างขวัญกำลังใจของพนักงาน :

ธุรกิจที่มีความยั่งยืนและใส่ใจพนักงานสามารถดึงดูดและรักษาพนักงานคุณภาพได้ดีกว่า เพราะพนักงานต้องการทำงานในองค์กรที่มีจริยธรรมและความรับผิดชอบ

ชวนเจาะลึก 3 มิติหลักของ ESG

1. Environmental (สิ่งแวดล้อม)

2. Social (สังคม)

3. Governance (ธรรมาภิบาล)

แนวทางการนำ ESG ไปปรับใช้กับธุรกิจควรเริ่มต้นอย่างไร?

1.ประเมินสถานะปัจจุบันขององค์กร :

วิเคราะห์กระบวนการทำงานและกิจกรรมทางธุรกิจว่ามีความสอดคล้องกับหลักการ ESG มากน้อยเพียงใด เพื่อดูจุดแข็งและจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุง

2.กำหนดเป้าหมายและวางแผนกลยุทธ์ :

ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและท้าทายแต่ทำได้จริง เช่น ลดการใช้พลังงานลง 20% ภายใน 2 ปี กำหนดขั้นตอน งบประมาณ และตัวชี้วัดผล (KPIs) เพื่อวัดความสำเร็จ

3.ปรับปรุงกระบวนการดำเนินงาน :

เริ่มจากการปรับปรุงกระบวนการที่ใช้ทรัพยากรน้อยแต่มีผลกระทบสูง เช่น การติดตั้งระบบประหยัดพลังงาน หรือปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

4.สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืน :

สื่อสารวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนให้พนักงานทุกระดับเข้าใจและมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนภายในองค์กร

เริ่มต้นวันนี้ เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

การนำแนวคิด ESG มาประยุกต์ใช้ไม่เพียงแต่เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคและนักลงทุนในยุคปัจจุบัน แต่ยังเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเติบโตในอนาคต ด้วยการปรับปรุงกระบวนการภายในองค์กรและสร้างวัฒนธรรมที่เน้นความยั่งยืน ผู้ประกอบการสามารถรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เริ่มต้นวางแผนและลงมือทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อก้าวสู่ธุรกิจที่ไม่เพียงแต่ทำกำไร แต่ยังมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง